ความคิดของผู้เกี่ยวข้องกับ E-sport ของไทย

ความคิดของผู้เกี่ยวข้องกับ E-sport ของไทย
1.   อัลเลน ซู ผู้จัดการอาวุโสด้านพันธมิตรธุรกิจเกม บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด มีมุมมองเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “ผมคิดว่าเราต้องมองสองโลก โลกหนึ่งคือโลกในวงการที่มีทั้งคนทำธุรกิจเกม คนเล่นเกม คนทำสินค้าและบริการเกี่ยวกับเกม กับโลกของคนทั่วไปที่จะไม่เข้าใจว่าอีสปอร์ตคืออะไร ทั้งๆ ที่อีสปอร์ตมีมานานแล้ว คนอาจเข้าใจผิดและมองว่าอีสปอร์ตเป็นสิ่งพิเศษ แต่ผมอยากให้มองว่าอีสปอร์ตเป็นแค่กีฬาประเภทหนึ่งที่คนไทยอาจไม่ค่อยรู้จัก เหมือนที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักกีฬาประเภท อื่นๆ อย่างฮอกกี้น้ำแข็ง เพราะมันไม่ได้อยู่ในชีวิตของเรา”
   “ในฐานะผู้ให้บริการ เราได้ผลักดันกีฬาอีสปอร์ตมานานแล้ว เพราะเราเป็นศูนย์กลางของอีสปอร์ต สำหรับผู้เล่น เราพยายามสร้างเวทีและสร้างโอกาสให้เขาได้รับอะไรที่มีมูลค่า ซึ่งไม่ใช่เงินอย่างเดียว เพราะเวลาเล่นเกมคือเวลาที่มีความหมายสำหรับเขา ในส่วนของเราก็ต้องทำคอนเทนต์ของเกมให้ดี พัฒนาเกมอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าวัตถุประสงค์ในการเล่นเกมของเขาจะเป็นอะไร เขาจะต้องมีความสุขจากการเล่นเกมด้วย สิ่งหนึ่งซึ่งสำคัญมากในเมืองไทยก็คือ ในประเทศอื่น คนที่เล่นเกมอาจมองที่เรื่องแพ้ชนะ เรื่องของการแข่งขัน แต่ที่เมืองไทย การเล่นเกมเป็นกิจกรรมในกลุ่มเพื่อน เป็นทีมเวิร์ก”
   “เราพยายามจัดการแข่งขันให้คนที่มีฝีมือสามารถสร้างรายได้จากจุดนี้ และพัฒนาให้อีสปอร์ตไปได้ไกลมากกว่านี้ เป็นโชว์เคสให้สังคมได้เห็นว่าอีสปอร์ตกับเกมมิ่งของไทยพัฒนาไปถึงไหนแล้ว อย่างล่าสุด เราจัดงาน Garena Star League ขึ้นเมื่อเดือนเมษายน ก็เป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีคุณภาพไม่แพ้ต่างประเทศ
  “ที่ผมพูดตลอดคืออยากให้ผู้ใหญ่ ไม่ว่ารัฐบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย มองเราว่าเป็นช่องทางที่ดีในการสื่อสารกับวัยรุ่น เด็กไทยเล่นเกมกันเยอะ หากเข้าถึงพวกเขาได้ เราก็สามารถถ่ายทอดสิ่งดีๆ ให้กับเด็กได้ เรามองว่านี่เป็นหน้าที่ของการีนาด้วยเหมือนกัน แต่ที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นเป้าหมายของเราและฝันของเด็กๆ คือเราพยายามพิสูจน์ให้คนทั่วไปเห็นว่าคนที่เล่นเกมเหล่านี้เป็นมืออาชีพจริงๆ พวกเขาคือ professional eSports player
    2. ดร.ถิรพล กล่าวว่า “ผมนึกถึงสมัยก่อนที่การเล่นสนุกเกอร์ถูกมอว่าเป็นการพนัน เป็นสิ่งไม่ดี แต่พอคนไทยได้แชมป์ เกิดฮีโร่ ‘ต๋อง ศิษย์ฉ่อย’ ขึ้นมา คราวนี้โอ้โหพ่อแม่พาลูกไปเล่นเลย นี่ก็คล้ายกัน เพราะตอนนี้คนยังมองเกมว่ามอมเมา ใช้เวลาไม่ถูกต้อง แต่สำหรับคนที่เล่นเกมมันสามารถเทิร์นตัวเองเป็นนักกีฬาได้ แต่การเป็นนักกีฬา E-Sportมันต้องมีวินัย ต้องขยันต้องฝึกซ้อม ต้องสื่อสารกับเพื่อน เพราะว่าเกมพวกนี้ต้องใช้ทักษะค่อนข้างเยอะพอสมควร ใช้หัวสมองเยอะมากในการชนะคู่ต่อสู้ ซึ่งตรงนี้จะทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นนักกีฬาได้มากกว่าเป็นแค่เด็กติดเกม เขาจะมีรายได้จากตรงนี้ได้ คล้ายๆ กับการเป็นนักกีฬาอาชีพเลย”
    3. องศา กล่าวว่า “ในความคิดผมผมคิดว่ามันไม่ได้เรื่องที่แย่ขนาดนั้น บางทีเราต้องดูว่าเด็กที่บ้านของคุณเขาเล่นเกมไปเพื่ออะไร บางคนเล่นเกมไปเพื่อแข่งขัน บางคนเล่นเกมไปเพื่อสนุกสนานก็ต้องดูอีกที ถ้าเล่นเกมเพื่อการแข่งขัน เราก้ต้องดูอีกแบบด้วย เพราะว่าคนที่เล่นเพื่อนการแข่งขันบางที เป็นนักกีฬาก็ต้องจับเวลา เช่น คนเป็นนักกีฬาควรจะนอนไม่เกิน 4-5 ทุ่ม เพื่อที่เราจะได้รีแล็กซ์ตัวเอง เช่นอาจจะเลิกเล่นสักประมาณ 4 ทุ่ม แล้วเราอาจะนอน 5 ทุ่ม เพื่อพักเขาเรียกว่า Cool down โดยเป็นการที่เราดูคลิปการแข่งของคนอื่นเพื่อศึกษา ซึมเข้าไปสมองเรื่อยๆ แล้วค่อยไปนอน การที่เล่นถึงดึกตี 1 ตี 2 อย่างนั้นคือผู้เล่นทั่วไป แต่นักกีฬาควรที่จะมีการแบ่งเวลาให้เป็น”



สุดท้ายสิ่งที่ องศา อยากจะฝากบอกสังคมและรัฐบาลก็คือ อยากให้มองว่าสำคัญ อย่าง E-Sport ผมมองว่ามันสำคัญไม่ต่างจากกีฬาต่างๆ เลย เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ใหม่ บางทียังอาจจะเห็นไม่ชัด เพราะว่าการเล่นเกมจะต้องมองให้ลึกซึ้งว่า มันเป็นกีฬาได้ “นอกจากนี้ เวลาที่พวกเราไปแข่งมาแล้ว ไม่ค่อยมีการสนับสนุน ไม่มีการตอบรับจากผู้ใหญ่เลย อาจจะมีคนชื่นชมในตอนแรกที่ได้รางวัลกลับมา แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร ไม่มีการต่อยอด คือถ้าช่วยส่งเสริมหรือสนับสนุนพัฒนาพวกเราต่อไป เราจะรู้สึกมีกำลังใจ มีคนไม่ลืมเรานะ ทำชื่อเสียงให้กับประเทศกลับมาก็อยากให้มีการสนับสนุนเพิ่มเติม”

No comments:

Post a Comment